จากสหภาพความยากลำบากทางเศรษฐกิจตั่งแต่ปี
ค.ศ.1975 เป็นต้นมา ประกอบกับในช่วง ค.ศ.1980
สหภาพโซเวียตประกาศนโยบายเปิดประเทศ (Glasnost and Perestroika) ซึ่งมีอิทธิพลต่อแนวความคิดของเหล่าผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามด้วยเช่นกัน
ปีค.ศ.1986 เวียดนามจึงประกาศนโยบายปฏิรูปโด่ยเหม่ย (Doi moi Renovation) ในภาษาเวียดนาม “โด่ย”แปลว่า
เปลี่ยน “เหม่ย”แปลว่า ใหม่) และเริ่มปฏิรูปตลาดเสรี โดยยังควบคุมกิจการของรัฐไว้
แต่เริ่มผ่อนปรนอนุญาตให้ประชาชนสามารถประกอบกิจการดำเนินธุรกิจการค้าตัวเองได้
การล่มสลายของสหภาพโซเวียตในช่วง ค.ศ.1989-ค.ศ.1991 ทำให้เวียดนามต้องทบทวนและปรับนโยบายเปิดประเทศมากขึ้น
โดยหันมาใช้ระบบเศรษฐกิจแบบการตลาดภายใต้ระบบสังคมนิยมต่อมาในปี ค.ศ. 1964 และในปี ค.ศ.1995 เป็นปีที่เวียดนามเข้าเป็นสมาชิก ASEAN
ชาวเวียดนามที่อพยพไปอยู่ประเทศตะวันตกที่คนเวียดนาม เรียกว่า
เวียดเกี่ยว(Viet Kieu – Oversea Vietnamese)กลับมาเป็นกำลังสำคัญหนึ่งในการพัฒนาเศรษฐกิจจากเงินที่ส่งกลับเข้ามาให้ญาติพี่น้องที่ยังอยู่ในเวียดนามปีละหลายพันล้านเหรียญ
และบางคนกลับมาสร้างธุรกิจด้วยเงินทุนความรู้และประสบการณ์จากโลกตะวันตกเวียดนามได้มีการจัดตั้งตลาดหลักทรัพย์ในปี
ค.ศ.2000โดยเริ่มต้นมีทรัพย์จดทะเบียนเพียง 4-5 หลักทรัพย์และไม่ได้ความสนใจจากนักลงทุน
แต่ต่อมาเมื่อรัฐบาลเริ่มนำกิจการของรัฐทยอยเข้าตลาด (อุตสาหกรรมการผลิตต่างๆ
เดิมล้วนเป็นกิจการของรัฐ เช่น ผลิตท่อน้ำ ผลิตรองเท้าผลิตภัณฑ์นม ประมง เป็นต้น)
และบริษัทเอกชนต่างๆเข้าจดทะเบียนมากขึ้นตลาดหลักทรัพย์จึงพัฒนาขึ้นมาอย่างเรื่อยๆเข้าจนถึงช่วงที่ดัชนีตลาดพุ่งทะยานขึ้นอย่างร้อนแรงในปีค.ศ.2006 อย่างท่วมท้น ปีค.ศ.2006
เป็นปีที่เวียดนามเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม APEC
และเป็นปีที่สมาชิก WTO (World Trade Organization) อีกด้วย
อยากทราบว่า เวียดนาม เขามีระบบการปกครองอย่างไร แล้วมีความเกี่ยวข้องกับประเทศจีนอย่างไร
ตอบลบเป็นข้อมูลความรู้ที่เป็นประโยชน์ต่อการเรียนรู้เรื่องวัฒนธรรมของประเทศเวียดนามอย่างยิ่ง ขออนุญาตเรียนรู้และอ้างอิง เพื่อสร้างความรู้ทางวิชาการสู่สังคมอาเซียนสืบไป ครับ
ตอบลบ