วันพุธที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ประวัติศาสตร์เวียดนามช่วงค.ศ. 1945-1954

สงครามอินโดจีน(ค.ศ.1945-ค.ศ.1954)
          ต้นปี ค.ศ.1945 ญี่ปุ่นยึดอำนาจอย่างเบ็ดเสร็จขับไล่ฝรั่งเศสออกจากอินโดจีน กษัตริย์เป๋าได่ ประกาศให้เวียดนามเป็นเอกราชแต่ในความเป็นจริงยังอยู่ภายใต้อำนาจของญี่ปุ่น โดยในเดือนสิงหาคม 1945 เมื่อญี่ปุ่นยอมจำนนต่อพันธมิตรหลังจากถูกระเบิดปรามาณูที่ฮิโรชิม่าและนางากิ จึงเกิดสุญญากาศทางอำนาจเวียดนาม เวียดมินห์ทำการปฏิวัติที่เรียกว่า การปฏิวัติเดือนสิงหาคม (August Revolution) เข้ายึดที่ทำการรัฐบาลกษัตริย์เบ๋าได่ทรงสละอำนาจ เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 1945 โฮจิมินห์ในฐานะผู้นำเวียดมินห์ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ประกาศเวียดนามเป็นเอกราชเมื่อวันที่ 2 กันยายน 1945 เรียกชื่อประเทศว่า สาธารณรัฐประชาธิปไตยแห่งเวียดนาม (Democratic public of Vietnam)วันที่ 2 กันยายน จึงถือเป็นวันชาติของเวียดนามและวันหยุดราชการของทุกปี  อย่างไรก็ตาม หลังสงครามโลกครั้งที่2 เมื่อกองกำลังอังกฤษและฝรั่งเศส เข้าปลดอาวุธกองทัพญี่ปุ่นในเวียดนามใต้ ฝรั่งเศสได้กลับเข้ามามีอิทธิพลในเวียดนามใต้อีกครั้ง แต่ตระหนักดีว่าระบบอาณานิคมแบบเดิมล่มสลาย จึงใช้วิธีการใหม่สร้างเป็นรัฐกึ่งเอกราชที่อยู่ในกลุ่มสหพันธ์ของฝรั่งเศส (French Union) โดยมีกษัตริย์เบ๋าได่เป็นประมุขรัฐ
          ในปีค.ศ.1947 จึงเริ่มเกิดสงครามเต็มรูปแบบระหว่างฝรั่งเศสกับเวียดมินห์ และทำสงครามต่อมาอย่างยืดเยื้อยาวนาถึง 8 ปี ในที่สุดเวียดมินห์ก็สามารถเอาชนะฝรั่งเศสได้อย่างราบคาบที่ศึกเดียนเบียนฟูในปี ค.ศ.1954 จากนั้นกองกำลังเวียดมินห์ทำการรุกต่อเพื่อรวมประเทศจึงต้องสู้รรบกันเองระหว่างเวียดนามเหนือและเวียดนามใต้ จนกระทั่งสุดท้ายต้องมีการเจรจาสันติภาพเจนีวา(Ganeva Accord) ซึ่งมีมติให้แบ่งประเทศเป็นสองส่วนที่เส้นขนานที่17 แบ่งเป็นเวียดนามเหนือซึ่งมีโฮจิมินห์เป็นผู้นำ และเวียดนามใต้มีกษัตริย์เบ่าได่เป็นประมุข และมีโงดินเยียม(Ngo Dinh Diem)เป็นนายกรัฐมนตรี


1 ความคิดเห็น:

  1. เป็นข้อมูลความรู้ที่เป็นประโยชน์ต่อการเรียนรู้เรื่องวัฒนธรรมของประเทศเวียดนามอย่างยิ่ง ขออนุญาตเรียนรู้และอ้างอิง เพื่อสร้างความรู้ทางวิชาการสู่สังคมอาเซียนสืบไป ครับ

    ตอบลบ